วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559

ไขข้อข้องใจกับการเคลือบฟันเทียม






การเคลือบฟันเทียม คือการเคลือบผิวด้านหน้าของฟันที่สร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะทำการเคลือบฟันด้วยวัสดุประเภท พลาสติกเรซิน  หรือ เซรามิค เพื่อเป็นการทดแทนผิวหน้าฟันจริง ที่อาจจะสูญเสียไป หรือ อาจมีสีฟันที่ไม่สวยงาม ซึ่งการเคลือบฟันเทียม แบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ที่ขึ้นอยู่ตามกระบวนการผลิตชิ้นเคลือบฟันเทียม ซึ่งจะทำโดยตรงในปากและเคลือบฟันเทียมที่ทำนอกช่องปากแต่อาจจะต้องมีการแบ่งออกตามชนิดของวัสดุที่ใช้ทำเคลือบฟันเทียม  

หน้าที่ของเคลือบฟันเทียม
ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบฟันที่ทำจากวัสดุใดก็ตาม หรือว่าจากกระบวนการใดๆทั้งในปาก และนอกปาก ซึ่งต่างก็ทำเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน วัสดุประเภทเซรามิคมีความสวยงามและดูเป็นธรรมชาติ แข็งแรงกว่าวัสดุประเภทเรซิน ซึ่งหากคุณต้องการความสวยงามแข็งแรง ก็อาจจะเลือกเคลือบฟันเทียมประเภทเซรามิค แต่จะมีราคาสูงกว่าวัสดุประเภทพลาสติก ที่สำคัญคือต้องใช้เวลาในการทำหลายครั้งกว่า เพราะการเคลือบฟันที่ทำจากเซรามิค จะต้องมีขั้นตอนของกระบวนการทางห้องปฏิบัติการด้วย ส่วนแบบพลาสติกนั้น สามารถทำได้โดยตรงในช่องปากและเสร็จได้ในครั้งเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับคนงบน้อยแต่ก็จะมีความสวยงามระดับหนึ่ง และมีเวลาจำกัด  

เมื่อไหร่ที่จะต้องทำการเคลือบฟันเทียม ?
การที่จะทำเคลือบฟันเทียม จะต้องทำในกรณีที่ฟันมีการเปลี่ยนสีหรือ สีของฟันดูคล้ำ ฟันซ้อน ฟันห่าง ฟันบิดเก การสูญเสียผิวฟันไปบางส่วน  การเรียงตัวของฟันไม่สวยงหรือการทำเคลือบฟันเทียมในฟันหน้า ซึ่งเป็นส่วนฟันที่เห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลา ยิ้ม หรือพูด และหากการฟอกสีฟันเพื่อให้ฟันดูขาวขึ้น หากทำได้ไม่เห็นผลดีเท่าไหร่ก็อาจใช้การทำเคลือบฟันเทียมได้ ซึ่งการทำเคลือบฟันเทียมจะสามารถสร้างรูปร่างของฟันให้ดูดีขึ้น แต่การทำเคลือบฟันเทียมมาปกปิดนั้น จะต้องมีความผิดปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ใช่ความผิดปกติที่รุนแรง  

สำหรับใครที่สนใจทำเคลือบฟันเทียม สามารถขอคำปรึกษาได้ฟรี ที่ศูนย์ทันตกรรม PMDC ที่ประกอบด้วยทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำเคลือบฟันเทียมมานานกว่า 23 ปี หรือหากท่านต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเคลือบฟันเทียม หรือภาพก่อนและหลังคุณสามารถดูได้ที่นี่  http://www.pmdc-dental.com/th/ทันตกรรมตกแต่ง/เคลือบฟันเทียม