วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ครอบฟันดีอย่างไร?



โดยปกติแล้วหมอฟันแนะนำเราให้พบหมอฟันทุกๆ 6 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อตรวจสุขภาพฟัน แต่หลายๆคนก็คงจะรู้สึกกลัวหมอฟัน กลัวเสียงเครื่องมือ และละเลยการเข้าพบหมอฟัน จนทำให้เกิดฟันเกิดปัญหาตามมา เลยต้องเป็นภาวะจำยอมที่จะต้องไปหาหมอฟันเพื่อทำการรักษา การรักษาฟันวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมนั่นคือการครอบฟัน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับวิธีครอบฟัน ว่ามีประโยชน์อย่างไร?

การครอบฟัน คืออะไร
การครอบฟัน เป็นการครอบ หรือคลุมฟันที่เสียหายทั้งซี่ เพื่อทำให้ฟันซี่นั้นแข็งแรงขึ้น หรือเพื่อตกแต่งรูปทรงให้ฟันสวยงาม หรือ เป็นระเบียบมากขึ้น การครอบฟันนั้นมักใช้พอร์เซเลน หรือเซรามิก เป็นส่วนประกอบซึ่งสามารถปรับสี ให้เข้ากับ สีฟันตาม ธรรมชาติได้ ส่วนวัสดุอื่นๆ เช่น ทอง และโลหะผสม อาครีลิค และเซรามิก จะมีความแข็งแรง มากกว่าพอร์เซเลน จึงแนะนำให้ใช้สำหรับที่ด้านหลังของฟัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้พอร์เซเลนเชื่อมติด กับภายนอกของโลหะ เพราะโลหะทั้งสองชนิดมีความแข็งแรงมากกว่า

หมอฟันจะแนะนำให้เราครอบฟันเพือ
-    ใช้แทนการอุด ในกรณีที่ฟันซี่นั้นมีบริเวณที่ต้องอุดเยอะมาก เนื้อฟันเหลือน้อยเกินไป
-    ป้องกันฟันที่อ่อนแอจากการแตกร้าว
-    ซ่อมแซมฟันที่แตกร้าว
-    ใช้เป็นที่ยึดฟัน
-    เพื่อแก้ไขปัญหาสีฟันไม่เท่ากันหรือมีฟันที่มีรูปร่างไม่ดี
-    ครอบฟันที่เคยได้รับการรักษารากฟันมาก่อน

แม้ว่าการครอบฟัน จะช่วยรักษาสภาพฟัน หรือช่วยซ่อมแซมส่วนของฟันที่เสียหายได้ แต่การดูแลรักษาฟันตามที่หมอฟันแนะนำด้วยตัวเองอย่างสม่ำ และพบหมอฟันทุก 6 เดือน เพื่อช่วยให้ฟันแข็งแรงหรือหากมีปัญหาเกิดขึ้นกับฟันของเรา ก็จะทำให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

สำหรับท่านใดที่ต้องการที่จะทำครอบฟัน และกำลังมองหาศูนย์ทันตกรรมที่มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญ้ดานการทำครอบฟัน เราขอแนะนำศูนย์ทันตกรรม PMDC ซึ่งเป็นศูนย์ทันตกรรมที่มีทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการทำครอบฟันมานานกว่า 23 ปี คุณสามารถเข้าไปดูภาพก่อนและหลัง และรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับการครอบฟันได้ที่ http://www.pmdc-dental.com/th/ทันตกรรมตกแต่ง/ครอบฟันชนิดไม่มีโลหะ








วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ฟอกสีฟันหรือฟอกฟันขาวกับวิธีของการฟอกฟัน



อยากฟอกฟันขาวแต่ไม่รู้ว่าการฟอกนั้นมีประเภทใดบ้าง วันนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจกับวิธีของการฟอกฟันขาวที่เราสามารถเลือกทำได้สะดวกตามทุนทรัพย์และเวลาที่มีค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ควรจะต้องเลือกทำตามการวินิจฉัยของแพทย์นะคะ

เริ่มจากการฟอกสีฟันที่ทำในคลินิก (In-office Power Bleaching )  เป็นการใช้สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีความเข้มข้นประมาณ 35%  ต่อมาเป็นการฟอกฟันขาวด้วยตนเองที่บ้าน( At-home Bleaching) ใช้สารเหมือนกับทำที่คลินิกแต่มีความเข้มข้นแค่ 10%  วิธีที่ 3 คือการทำทั้งในคลินิกและนำไปทำที่บ้านด้วย( In-office assisted Bleaching) นั่นคือ การใช้สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นสูงในคลีนิคให้ฟันขาวขึ้นระดับหนึ่งและนำสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีความเข้มข้นต่ำกลับไปทำต่อเองที่บ้าน ทำอย่างต่อเนื่องฟันก็ขาวได้เหมือนกัน  ต่อมาเป็นการนำแถบฟอกสีฟัน  หรือยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสารฟอก โดยหาซื้อได้ตามร้านขายยา ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ในการดูแลของทันตแพทย์(Over-the-counter Bleaching) และอย่างสุดท้าย คือ  การฟอกสีฟันที่เปลี่ยนสีเพราะฟันตาย  โดยจะเป็นการเปลี่ยนสีเฉพาะที่ หรือฟันที่เพิ่งรักษารากฟันจึงทำให้มีสีคล้ำขึ้นโดยทันตแพทย์นั้นจะใส่สารฟอกสีขาวเข้าไปในตัวฟัน  เพื่อให้สารฟอกนั้นเข้าไปทำให้ฟันขาวขึ้นค่ะ (Walking Bleaching)

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีการฟอกฟันขาวที่เราสามารถเลือกได้ตามต้องการ อย่างไรก็ตามเมื่อทำแล้วก็ควรหมั่นดูแลรักษาเพื่อให้ฟันของเรานั้นมีสีขาวยาวนาน เพิ่มความมีเสน่ห์ให้กับรอยยิ้มของคุณค่ะ


สำหรับท่านใดที่สนใจต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการฟอกสีฟัน เราขอแนะนำ ศูนย์ทันตกรรม PMDC ซึ่งเป็นศูนย์ทันตกรรมที่ประกอบไปด้วยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำฟัน ซึ่งมีประสบการณ์มากนานกว่า 23 ปี หากท่านสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฟอกสีฟันได้ หรือจะเข้าไปดูภาพก่อนและหลังได้ที่  http://www.pmdc-dental.com/th/ทันตกรรมตกแต่ง/ฟอกสีฟันชนิดเสร็จในครั้งเดียว



ฟอกสีฟันหรือฟอกฟันขาวกับวิธีของการฟอกฟัน



อยากฟอกฟันขาวแต่ไม่รู้ว่าการฟอกนั้นมีประเภทใดบ้าง วันนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจกับวิธีของการฟอกฟันขาวที่เราสามารถเลือกทำได้สะดวกตามทุนทรัพย์และเวลาที่มีค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ควรจะต้องเลือกทำตามการวินิจฉัยของแพทย์นะคะ

เริ่มจากการฟอกสีฟันที่ทำในคลินิก (In-office Power Bleaching )  เป็นการใช้สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีความเข้มข้นประมาณ 35%  ต่อมาเป็นการฟอกฟันขาวด้วยตนเองที่บ้าน( At-home Bleaching) ใช้สารเหมือนกับทำที่คลินิกแต่มีความเข้มข้นแค่ 10%  วิธีที่ 3 คือการทำทั้งในคลินิกและนำไปทำที่บ้านด้วย( In-office assisted Bleaching) นั่นคือ การใช้สารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ความเข้มข้นสูงในคลีนิคให้ฟันขาวขึ้นระดับหนึ่งและนำสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่มีความเข้มข้นต่ำกลับไปทำต่อเองที่บ้าน ทำอย่างต่อเนื่องฟันก็ขาวได้เหมือนกัน  ต่อมาเป็นการนำแถบฟอกสีฟัน  หรือยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสารฟอก โดยหาซื้อได้ตามร้านขายยา ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ในการดูแลของทันตแพทย์(Over-the-counter Bleaching) และอย่างสุดท้าย คือ  การฟอกสีฟันที่เปลี่ยนสีเพราะฟันตาย  โดยจะเป็นการเปลี่ยนสีเฉพาะที่ หรือฟันที่เพิ่งรักษารากฟันจึงทำให้มีสีคล้ำขึ้นโดยทันตแพทย์นั้นจะใส่สารฟอกสีขาวเข้าไปในตัวฟัน  เพื่อให้สารฟอกนั้นเข้าไปทำให้ฟันขาวขึ้นค่ะ (Walking Bleaching)

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับวิธีการฟอกฟันขาวที่เราสามารถเลือกได้ตามต้องการ อย่างไรก็ตามเมื่อทำแล้วก็ควรหมั่นดูแลรักษาเพื่อให้ฟันของเรานั้นมีสีขาวยาวนาน เพิ่มความมีเสน่ห์ให้กับรอยยิ้มของคุณค่ะ


สำหรับท่านใดที่สนใจต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการฟอกสีฟัน เราขอแนะนำ ศูนย์ทันตกรรม PMDC ซึ่งเป็นศูนย์ทันตกรรมที่ประกอบไปด้วยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำฟัน ซึ่งมีประสบการณ์มากนานกว่า 23 ปี หากท่านสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฟอกสีฟันได้ หรือจะเข้าไปดูภาพก่อนและหลังได้ที่  http://www.pmdc-dental.com/th/ทันตกรรมตกแต่ง/ฟอกสีฟันชนิดเสร็จในครั้งเดียว



วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

ชนิดและประโยชน์ของการติดฟันปลอม เพื่อสุขภาพปากและฟันที่ดี




การทำฟันปลอม คือสิ่งประดิษฐ์ที่ทันตแพทย์ทำให้กับคนไข้เพื่อทดแทนฟันธรรมชาติ ที่เป็นการสูญเสียฟันแท้ไป เนื่องจากอาการฟันผุ หรือโรคเหงือกอักเสบที่ลุกลามจนรักษาไม่ได้ หรือแม้แต่เสียฟันไปเนื่องจากอุบัติเหตุ ซึ่งหากมีฟันปลอมก็จะช่วยในการบดเคี้ยวอาหาร การพูด และช่วยให้เกิดความสวยงามโดยเฉพาะในฟันหน้า ซึ่งฟันปลอมยังช่วยรักษาสภาพในช่องปากไม่ให้ถูกทำลายลงไปอีกด้วย

ชนิดของการทำฟันปลอมอย่างไหนดีกว่า
การฟันปลอมแบ่งเป็น 2 ชนิดหลักๆ คือ ฟันปลอมชนิดถอดได้ และฟันปลอมชนิดติดแน่นโดยจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือฟันปลอมฐานพลาสติกและ ฟันปลอมฐานโลหะ โดยหากแบ่งตามจำนวนซี่ฟันที่ใส่แล้ว จะแบ่งได้เป็นฟันปลอมบางส่วน และฟันทั้งปาก ซึ่งการทำฟันปลอมฐานเป็นพลาสติกจะมีความแข็งแรงน้อยกว่าฟันปลอมฐานเป็นโลหะและราคาจะถูกกว่า ซึ่งหากใช้ฟันปลอมฐานเป็นพลาสติกไปนานๆ จะเกิดการติดสีและกลิ่น ส่วนฟันปลอมฐานโลหะจะทำความสะอาดได้ง่ายกว่า รู้สึกสบายกว่าเพราะโลหะจะเบากว่าพลาสติกแถมโลหะยังส่งผ่านความร้อนความเย็นไปสู่เนื้อเยื่อใต้ฟันปลอมได้ดีกว่า ทำให้ผู้ใส่ฟันปลอมฐานโลหะนั้นมีความรู้สึกต่ออุณหภูมิได้ดีกว่า

ข้อดีของการทำฟันปลอม

การทำฟันปลอมจะช่วยป้องกันสันเหงือกบริเวณที่ถอนฟัน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายจากการเคี้ยวอาหารและยังช่วยป้องกันฟันที่เหลือให้เคลื่อนที่หรืองอกไปจากตำแหน่งเดิม ซึ่งอาจจะทำให้เศษอาหารติดตามซอกฟัน ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดโรคฟันผุและเหงือกอักเสบได้ง่าย  ซึ่งฟันปลอมบางส่วนจะเป็นฟันปลอมที่ใส่แทนฟันที่ถูกถอนออกไปบางซี่ ฐานฟันปลอมอาจเป็นพลาสติกหรือโลหะก็ได้ โดยการทำฟันปลอมบางส่วนมักจะมีตะขอ เพื่อเป็นการช่วยยึดฟันปลอมให้ติดอยู่ในช่องปากได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับท่านใดที่มีปัญหาสูญเสียฟันแท้ และต้องการที่จะใส่ฟันปลอม แต่ก็เกรงว่าทำไปแล้วจะดูออกมาไม่เป็นธรรมชาติ เราขอแนะนำศูนย์ทันตกรรม PMDC ซึ่ง ประกอบด้วยทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำฟันปลอม ให้ดูออกมาเป็นธรรมชาติ และมีคุณภาพ ด้วยประสบการณ์ที่มีมานานกว่า 23 ปี และเทคโนโลยีที่ทันสมัย หากท่านใดสนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำฟันปลอม พร้อมภาพก่อนและหลังการทำ ได้ที่ http://www.pmdc-dental.com/th/ทันตกรรมตกแต่ง/ฟันปลอม




วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559

ขั้นตอนของการรักษาด้วยการทำครอบฟัน






การครอบฟันต่างก็มีขั้นตอนต่างๆ ก่อนที่จะทำการครอบฟัน เพราะจะต้องทำการตรวจวินิจฉัยและการเตรียมฟัน รวมถึงการฉีดยาชาบริเวณฟันซี่ที่จะกรอเพื่อทำครอบฟัน ขั้นตอนการกรอฟันเพื่อเป็นฐานให้แก่ครอบฟัน ,การพิมพ์ปากเพื่อทำแบบจำลอง,การจดบันทึก สี ขนาด รูปร่างของฟันที่ต้องการในการทำครอบฟัน ซึ่งแบบจำลองและรายละเอียดทั้งหมดจะถูกส่งไปยังห้องแลปเพื่อทำครอบฟัน โดยทันตแพทย์จะทำการติดครอบฟันแบบชั่วคราวให้แก่ผู้ป่วย ให้ใช้ในช่วงระหว่างการรอ

ขั้นตอนการติดครอบฟัน
ก่อนจะทำการติดครอบฟัน ก็จะต้องทำการรื้อครอบฟันแบบชั่วคราวออกก่อน เพราะการติดยึดครอบฟันแบบถาวรบนฟันนั้น จะต้องทำการตรวจเช็คและการปรับแต่งให้มีความเหมาะสมที่สุด ซึ่งขั้นตอนการดูแลรักษาการครอบฟันนั้น ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำด้านการดูแลทำความสะอาดครอบฟันเพื่อให้เกิดอายุการใช้งานที่ยาวนาน  ซึ่งขั้นตอนการเตรียมฟันและการติดยึดครอบฟันนั้น อาจะก่อให้เกิดอาการเสียวฟันได้  อาการดังกล่าวจะสามารถหายได้เองในเวลาไม่นาน

หลังการเข้ารับการทำครอบฟันต้องปฏิบัติอย่างไร
เนื่องจากการครอบฟันจะสามารถมีอายุการใช้งานที่ยาวนานได้ ก็ต่อเมื่อฟันที่ใช้เป็นฐานรองรับครอบฟันมีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งการดูแลเอาใจใส่เพื่อสุขภาพของปากและฟันที่ดีนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งคุณจะต้องหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารที่มีความแข็งภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากการติดยึดครอบฟันไปแล้ว และควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้เกิดอาการบวมหรืออาการต่างๆได้อาจใช้การบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง และควรดูแลความสะอาดบริเวณที่ติดครอบฟันให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการเกิดโรคเหงือกควรเลือกใช้ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีสารฟลูออไรด์สูง และเริ่มด้วยการรับประทานอาหารอ่อนๆหลีกเลี่ยงการดื่มหรือการรับประทานอาหารที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด รวมถึงอาหารที่มีความเป็นกรดสูง ฯลฯ 

สำหรับใครทีกำลังสนใจและต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำครอบฟัน เราขอแนะนำศูนย์ทันตกรรม PMDC ซึ่งเป็นศูนย์ทันตกรรมที่ประกอบด้วยทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านการทำครอบฟัน และมีประสบการณ์มามากกว่า 23 ปี หากท่านใดสนใจสามารถเข้าไปดูภาพก่อนและหลังทำครอบฟัน หรือดูข้อมูลเกี่ยวกับการทำครอบฟันเพิ่มเติมได้ที่  http://www.pmdc-dental.com/th/ทันตกรรมตกแต่ง/ครอบฟันชนิดไม่มีโลหะ

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ข้อดีของการใช้บริการจากศูนย์ทันตกรรม



ศูนย์ทันตกรรม เป็นบริการที่สามารถให้การรักษา ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟันทุกประเภท ต้องการแก้ไข ซ่อมแซม หรือรักษา รวมไปถึงการป้องกัน และควบคู่ไปกับการรักษาที่ซับซ้อน หรือหากมีอุบัติเหตุต่อใบหน้าและขากรรไกร ที่จะต้องทำให้ศูนย์ทันตกรรม มีส่วนร่วมในการรักษา โดยทันตแพทย์เฉพาะทางหลายสาขา รวมทั้งยังมีการปรึกษาแพทย์เฉพาะโรค ซึ่งสามารถให้การรักษา และยังรวมถึงในเรื่องของการประสานงานการรักษาได้อย่างครบถ้วน



เรียนรู้ที่มาของศูนย์ทันตกรรม
ศูนย์ทันตกรรม จะต้องมีความพร้อมทางเครื่องมือที่ทันสมัยและผ่านการทำความสะอาดเพื่อให้ปลอดเชื้อตามมาตรฐานห้องผ่าตัด โดยจะต้องนำเครื่องมือเข้าเครื่องอบความดัน และไอน้ำทุกๆครั้ง โดยจะต้องสามารถรองรับผู้ใช้ผู้บริการที่มีปัญหาเกี่ยวกับด้านสุขภาพฟันและช่องปาก ได้ครบทุกประเภท ซึ่งศูนย์ทันตกรรม จะต้องให้บริการด้วยใจเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ

การรักษาและป้องกันฟันที่ศูนย์ทันตกรรม
ศูนย์ทันตกรรมจะมีส่วนช่วยในเรื่องของการทันตกรรมโรคเหงือก รวมถึงโรคในช่องปาก โดยทันตแพทย์ จะทำการวินิจฉัยโรค เพื่อทำการรักษาโดยการให้ยาที่เหมาะสมและยังช่วยในการ ดูแลป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบ และการติดเชื้อที่รุนแรงในช่องปาก ซึ่งจะส่งผลให้รากฟันเสียหาย หรือทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจตามมา

การใช้บริการของศูนย์ทันตกรรม
ศูนย์ทันตกรรม มีบริการการจัดฟัน  ซึ่งถือเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ฟันของคุณมีการเรียงตัวที่เหมาะสมและสวยงาม โดยจะช่วยดูแลสุขภาพฟัน และเหงือก รวมถึงข้อต่อขากรรไกรและ ยังช่วยส่งผลแก้ไขรูปหน้าให้ดีขึ้น ซึ่งการจัดฟัน จัดได้ยอมรับว่าเป็นวิธีดูแลรักษาสุขภาพของฟันที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง คุณควรมอบความไว้วางใจให้กับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือชำนาญเฉพาะทางเป็นผู้ดูแลคุณ นอกจากนี้ศูนย์ทันตกรรม ยังมีทันตกรรมรากฟันเทียม  เป็นการทำรากฟันเทียม ซึ่งเป็นรากฟันที่ทำเลียนแบบธรรมชาติ และถูกจัดวางไว้บริเวณขากรรไกร ทำขึ้นเพื่อทดแทนรากฟันเดิม โดยรากฟันเทียมจัดเป็นทางเลือก ของการรักษาสุขภาพฟันที่ดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาที่เกิดจากการอาการเสียวฟัน และจะทำให้เกิดความมั่นใจในรอยยิ้ม  โดยมีการใช้งานเทียบเท่าได้กับฟันธรรมชาติ

สำหรับท่านใดที่สนใจและกำลังมองหาศูนย์ทันตกรรม ที่น่าเชื่อถือ เราขอแนะนำศูนย์ทันตกรรม PMDC ซึ่งเป็นศูนย์ทันตกรรมที่ประกอบด้วยทีมทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการทำฟันมานานกว่า 23 ปี สามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์และดูรายละเอียดการบริการและภาพก่อนและหลังการรักษาได้ที่ www.pmdc-dental.com/th

วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559

ไขข้อข้องใจกับการเคลือบฟันเทียม






การเคลือบฟันเทียม คือการเคลือบผิวด้านหน้าของฟันที่สร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะทำการเคลือบฟันด้วยวัสดุประเภท พลาสติกเรซิน  หรือ เซรามิค เพื่อเป็นการทดแทนผิวหน้าฟันจริง ที่อาจจะสูญเสียไป หรือ อาจมีสีฟันที่ไม่สวยงาม ซึ่งการเคลือบฟันเทียม แบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ๆ ที่ขึ้นอยู่ตามกระบวนการผลิตชิ้นเคลือบฟันเทียม ซึ่งจะทำโดยตรงในปากและเคลือบฟันเทียมที่ทำนอกช่องปากแต่อาจจะต้องมีการแบ่งออกตามชนิดของวัสดุที่ใช้ทำเคลือบฟันเทียม  

หน้าที่ของเคลือบฟันเทียม
ไม่ว่าจะเป็นการเคลือบฟันที่ทำจากวัสดุใดก็ตาม หรือว่าจากกระบวนการใดๆทั้งในปาก และนอกปาก ซึ่งต่างก็ทำเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน วัสดุประเภทเซรามิคมีความสวยงามและดูเป็นธรรมชาติ แข็งแรงกว่าวัสดุประเภทเรซิน ซึ่งหากคุณต้องการความสวยงามแข็งแรง ก็อาจจะเลือกเคลือบฟันเทียมประเภทเซรามิค แต่จะมีราคาสูงกว่าวัสดุประเภทพลาสติก ที่สำคัญคือต้องใช้เวลาในการทำหลายครั้งกว่า เพราะการเคลือบฟันที่ทำจากเซรามิค จะต้องมีขั้นตอนของกระบวนการทางห้องปฏิบัติการด้วย ส่วนแบบพลาสติกนั้น สามารถทำได้โดยตรงในช่องปากและเสร็จได้ในครั้งเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับคนงบน้อยแต่ก็จะมีความสวยงามระดับหนึ่ง และมีเวลาจำกัด  

เมื่อไหร่ที่จะต้องทำการเคลือบฟันเทียม ?
การที่จะทำเคลือบฟันเทียม จะต้องทำในกรณีที่ฟันมีการเปลี่ยนสีหรือ สีของฟันดูคล้ำ ฟันซ้อน ฟันห่าง ฟันบิดเก การสูญเสียผิวฟันไปบางส่วน  การเรียงตัวของฟันไม่สวยงหรือการทำเคลือบฟันเทียมในฟันหน้า ซึ่งเป็นส่วนฟันที่เห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลา ยิ้ม หรือพูด และหากการฟอกสีฟันเพื่อให้ฟันดูขาวขึ้น หากทำได้ไม่เห็นผลดีเท่าไหร่ก็อาจใช้การทำเคลือบฟันเทียมได้ ซึ่งการทำเคลือบฟันเทียมจะสามารถสร้างรูปร่างของฟันให้ดูดีขึ้น แต่การทำเคลือบฟันเทียมมาปกปิดนั้น จะต้องมีความผิดปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ใช่ความผิดปกติที่รุนแรง  

สำหรับใครที่สนใจทำเคลือบฟันเทียม สามารถขอคำปรึกษาได้ฟรี ที่ศูนย์ทันตกรรม PMDC ที่ประกอบด้วยทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำเคลือบฟันเทียมมานานกว่า 23 ปี หรือหากท่านต้องการอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเคลือบฟันเทียม หรือภาพก่อนและหลังคุณสามารถดูได้ที่นี่  http://www.pmdc-dental.com/th/ทันตกรรมตกแต่ง/เคลือบฟันเทียม